ซีอีเอ
ขีดจำกัดการตรวจจับ: ≤ 1.0 ng/mL;
ช่วงเชิงเส้น: 1-500 ng/mL;
ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เชิงเส้น R ≥ 0.990;
ความแม่นยำ: ภายในแบทช์ CV คือ ≤ 15%;ระหว่างแบทช์ CV คือ ≤ 20%;
ความแม่นยำ: ค่าเบี่ยงเบนสัมพัทธ์ของผลการวัดต้องไม่เกิน ± 15% เมื่อทดสอบเครื่องสอบเทียบความแม่นยำที่จัดทำโดยมาตรฐานแห่งชาติของ CEA หรือเครื่องสอบเทียบความแม่นยำที่ได้มาตรฐาน
1. เก็บบัฟเฟอร์เครื่องตรวจจับไว้ที่ 2~30℃บัฟเฟอร์มีความเสถียรนานถึง 18 เดือน
2. เก็บตลับทดสอบ Aehealth Ferritin Rapid Quantitative ที่อุณหภูมิ 2~30℃ อายุการเก็บรักษานานถึง 18 เดือน
3. ควรใช้ตลับทดสอบภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากเปิดแพ็ค
CEA (Carcinoembryonic Antigen) ซึ่งเป็นไกลโคโปรตีน 200 KD บนผิวเซลล์ โดยปกติจะผลิตขึ้นในระหว่างการพัฒนาของทารกในครรภ์ แต่จะหายไปหรือลดลงในเลือดของผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงเนื่องจากการสังเคราะห์โปรตีนนี้หยุดลงก่อนเกิดอย่างไรก็ตาม ระดับที่เพิ่มขึ้นอาจพบได้ในลำไส้ใหญ่, บริเวณกระเพาะอาหาร, เต้านม, รังไข่, ตับ, ปอด, ตับอ่อน, มะเร็งต่อมไทรอยด์ทางเดินน้ำดีและไขกระดูก รวมถึงในสภาวะที่ไม่ร้ายแรงบางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่, โรคลำไส้อักเสบ, โรคกระเพาะเรื้อรัง, แผลในกระเพาะอาหาร, โรคตับแข็ง ,ตับอักเสบและตับอ่อนอักเสบ.CEA มักใช้เพื่อติดตามผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่หลังการผ่าตัด เพื่อวัดการตอบสนองต่อการรักษาและดูว่าโรคนั้นกลับมาเป็นซ้ำหรือไม่เมื่อระดับ CEA สูงผิดปกติก่อนการผ่าตัดหรือการรักษาอื่น ๆ คาดว่าจะลดลงกลับสู่ระดับปกติหลังจากการผ่าตัดเอามะเร็งออกสำเร็จระดับ CEA ที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ถึงการลุกลามหรือการกลับเป็นซ้ำของมะเร็ง